วิธีดูแลดอกไม้ในแจกันให้อยู่นานและสดเสมอ

วิธีดูแลดอกไม้ในแจกันให้อยู่นานและสดเสมอ

ใครที่ชอบซื้อดอกไม้มาประดับบ้านคงจะเคยเจอปัญหาดอกไม้เหี่ยวเฉาเร็วเกินไปใช่ไหมคะ? อยากให้ช่อดอกไม้สวยๆ อยู่กับเราไปนานๆ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ

 เตรียมความพร้อมก่อนจัดดอกไม้

•  เลือกแจกันให้เหมาะสม: เลือกแจกันที่มีขนาดพอดีกับช่อดอกไม้ และทำความสะอาดแจกันให้สะอาดหมดจดก่อนนำดอกไม้ลงไป

•  ตัดก้านดอกไม้: ก่อนนำดอกไม้ลงแจกัน ให้ตัดก้านดอกไม้เฉียงประมาณ 45 องศา เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับน้ำ

•  ตัดใบออก: ตัดใบส่วนล่างที่จมน้ำออก เพื่อป้องกันการเน่าเสียของน้ำและดอกไม้

 วิธีดูแลดอกไม้ในแจกัน

•  เปลี่ยนน้ำในแจกันเป็นประจำ: ควรเปลี่ยนน้ำในแจกันทุก 2-3 วัน เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย

•  ทำความสะอาดแจกัน: ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ ควรทำความสะอาดแจกันให้สะอาด เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย

•  ตัดก้านดอกไม้ซ้ำ: ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ ควรตัดก้านดอกไม้ส่วนที่จมน้ำออกประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อให้ดอกไม้ดูดซับน้ำได้ดีขึ้น

•  เติมอาหารดอกไม้: สามารถหาซื้ออาหารดอกไม้มาเติมลงในแจกันได้ เพื่อช่วยให้ดอกไม้อยู่ได้นานขึ้น

•  หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดดโดยตรง: วางแจกันดอกไม้ในที่ที่มีอุณหภูมิปานกลาง และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

•  เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม: วางแจกันดอกไม้ในตำแหน่งที่ไม่โดนลมแรง หรือใกล้ผลไม้สุก เพราะเอทิลีนที่ปล่อยออกมาจากผลไม้จะทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วขึ้น

 เคล็ดลับเพิ่มเติม

•  ใช้แอสไพริน: การเติมแอสไพริน 1-2 เม็ดลงไปในแจกัน จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและช่วยให้ดอกไม้อยู่ได้นานขึ้น

•  ใช้เหรียญทองแดง: การใส่เหรียญทองแดงลงไปในแจกัน จะช่วยลดปริมาณแบคทีเรียในน้ำได้

•  ใช้เบกกิ้งโซดา: การเติมเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยลงไปในแจกัน จะช่วยปรับค่า pH ของน้ำให้เหมาะสมกับดอกไม้

หมายเหตุ: วิธีการดูแลดอกไม้แต่ละชนิดอาจแตกต่างกันออกไป ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอกไม้แต่ละชนิดก่อนนำไปปฏิบัติ

คำถามที่พบบ่อย:

 ทำไมดอกไม้ถึงเหี่ยวเร็ว?

= สาเหตุหลักมาจากแบคทีเรียที่เจริญเติบโตในน้ำ และการขาดน้ำ

 ดอกไม้ชนิดไหนอยู่ได้นานที่สุด?

= ดอกไม้แต่ละชนิดมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ดอกไม้บางชนิด เช่น ดอกกุหลาบ ดอกลิลลี่ และดอกคาเนชั่น สามารถอยู่ได้นานหลายวัน

 ควรเลือกดอกไม้ชนิดใดมาจัดแจกัน?

=  ควรเลือกดอกไม้ที่สดใหม่ และไม่มีรอยช้ำหรือรอยด่าง

คำแนะนำเพิ่มเติม:

•  หากต้องการให้ดอกไม้ดูสดใสอยู่เสมอ ควรหมุนแจกันเป็นประจำ เพื่อให้ดอกไม้ได้รับแสงสว่างอย่างทั่วถึง

•  การฉีดสเปรย์น้ำเล็กน้อยบนดอกไม้เป็นประจำ จะช่วยให้ดอกไม้ดูสดชื่น

•  ควรตัดดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาออก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรียไปยังดอกไม้อื่นๆ